"มูรินโญ่" ชมแข้งสเปอร์สตอบสนอง เยี่ยมเกมสอยสโต๊ค

   โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าวชื่นชมลูกทีมที่ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่่ยม และเสียสมาธิไปกับการโดนทีมคู่แข่งตีเสมอ หลังจากที่ทัพ "ไก่เดือยทอง" บุกไปเอาชนะ สโต๊ค ซิตี้ 3-1 ในศึก คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา

               สเปอร์ส ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 22 จาก แกเร็ธ เบล ซึ่งช่วงครึ่งหลังพวกเขาก็ยังเล่นได้ดี แต่กลายเป็น สโต๊ค ที่ได้ประตูตีเสมอจาก จอร์แดน ธอมป์สัน นาทีที่ 53 อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 70 "ไก่เดือยทอง" ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จาก เบน เดวิส ก่อนที่จะมาได้ประตูย้ำชัย 3-1 จาก แฮร์รี่ เคน นาทีที่ 81 ทำให้พวกเขาตบเท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และล่าสุดถูกจับสลากไปชนกับ เบรนท์ฟอร์ด อีกหนึ่งสโมสรจากระดับ แชมเปี้ยนชิพ โดยมีคิวฟาดแข้งกันในวันที่ 5 มกราคม 2021 

                 "ช่วงครึ่งแรกเราเล่นได้ดีมากๆ ผมจำไม่ได้แล้วว่า พวกเขามีจังหวะยิงตรงกรอบบ้างหรือเปล่า ขนาดลูกเตะมุมผมก็ไม่รู้ว่า พวกเขาได้กี่ครั้ง เพราะเราครองเกมไว้ได้หมด แต่เราเองก็ดุดันไม่มากพอที่จะทำประตูเพิ่มเพื่อปิดเกม" 

               "พอเข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง เราก็ยังเล่นได้ดี แต่จากที่จะเพิ่มสกอร์เป็น 2-0 กลับกลายเป็น 1-1 และหลังจากนั้นเกมก็เปิด แน่นอนว่า เราไม่อยากให้เกมยืดเยื้อไปจนถึงการดวลจุดโทษ และผมก็เชื่อว่า พวกเขาเองก็ต้องการแบบนั้นเช่นกัน ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องตอบสนอง และผมก็คิดว่า เราทำได้ดีมากๆ" ยอดกุนซือชาวโปรตุกีสวัย 57 ปี กล่าว

ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> aisufabet.com  | 4thinkufabet.com

"แซงต์-มักซิแม็ง", "ลาสเซลส์" 2 เเข้ง สาลิกา ติดโควิด-19

 อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง กับ จามาล ลาสเซลส์ สองกำลังหลักของ นิวคาสเซิ่ล ยังคงเจอผลกระทบจากโควิด-19 ระยะยาว หลังหายหน้าจากทีมไปพักใหญ่

สกายสปอร์ต สื่ออังกฤษ รายงานว่า นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ประสบปัญหามากมายเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถึงขั้นต้องเลื่อนเกมพรีเมียร์ลีกกับ แอสตัน วิลล่า และสองตัวหลัก มักซิแม็ง กับ ลาสเซลส์ ก็ได้รับผลกระทบระยะยาว

ก่อนหน้านี้ เดอะ แม็กพายส์ ต้องสั่งปิดสนามซ้อมเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากโควิด-19 ระบาดอย่างหนักในสโมสร จนมีบุคลากรของสโมสรมีผลตรวจเป็นบวกมากเกิน 10 ราย ระหว่างวันที่ 23-29 พฤศจิกายน แต่ไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่ามีนักเตะคนใดรวมอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม พบว่ามีนักเตะหลายคนที่พลาดเกมเยือน คริสตัล พาเลซ หลังจากนั้น อาทิ แซงต์-มักซิแม็ง, ลาสเซลล์ส, แอนดี้ แคร์โรลล์, ไรอัน เฟรเซอร์, เฟเดรีโก้ เฟร์นานเดซ, ไอแซ็ก เฮย์เดน โดยไม่มีการเปิดเผยว่าบาดเจ็บหรือกักตัวจากโควิด-19

ทั้งนี้ แหล่งข่าววงในของสโมสร เปิดเผยว่า แซงต์-มักซิแม็ง กับ ลาสเซลล์ส คือสองคนที่มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก และจนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ลงซ้อมกับทีมเลยนับตั้งแต่การระบาดเมื่อเดือนก่อน เพราะอาการป่วยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมยังมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะฟิตกลับคืนสนามได้เมื่อไหร่

ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/

คล็อปป์ เฉลยเหตุ ดร็อป ซาลาห์

 เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล เผยเหตุผลที่ตัดสินใจดร็อป โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเกมไล่ถลุง คริสตัล พาเลซ ว่าเป็นเรื่องของการให้โอกาสนักเตะได้พักร่างกาย ไม่เกี่ยวอะไรกับกรณีที่ "คิง ออฟ อียิปต์" เปิดใจกับสื่อดังในแดนกระทิงดุ

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยืนยันเหตุผลที่ดร็อป โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเกมถล่ม คริสตัล พาเลซ 7-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะต้องการพักร่างกายของนักเตะ ไม่เกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์กับ "อาส" สื่อในสเปน 

    สตาร์ลูกหนังชาวอียิปต์ เปิดปากให้สัมภาษณ์กับสื่อแดนกระทิงดุก่อนแมตช์ที่ "หงส์แดง" จะออกไปเยือนถิ่นเซลเฮิร์สท์ พาร์ค ว่าผิดหวังที่ไม่ได้เป็นกัปตันทีมในแมตช์ที่ต้นสังกัดบุกเสมอ มิดทิลแลนด์ 1-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดย คล็อปป์ เลือก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำหน้าที่เป็นผู้นำในสนาม

หลังจากนั้นในเกมพบ พาเลซ กุนซือชาวเยอรมัน จัดการจับ ซาลาห์ นั่งเป็นตัวสำรอง ทำให้สื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่าสาเหตุที่ทำให้เขาโดนดร็อปมาจากการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ได้ออกมาเคลียร์เรื่องนี้ทันทีพร้อมให้เหตุผลที่ทำแบบนี้เพราะต้องการพักร่างกายของนักเตะเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ ทั้งสิ้น

    "นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลง โม ลงเล่น 4 เกมหลังสุดซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะให้เขาได้พักบ้าง การให้เขาลงสนามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายจึงเป็นแนวคิดที่ดี มันก็แค่นั้นแหละ มันไม่เกี่ยวอะไรกับบทสัมภาษณ์กับอาสเลย" คล็อปป์ กล่าว

ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/

"คล็อปป์" รับช็อกชนะ โค้ชยอดเยี่ยมฟีฟ่า

 เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล รับทั้งอึ้งทั้งช็อกได้รับรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมฟีฟ่า ชี้ไม่คิดไม่ฝันตัวเองจะได้รางวัลนี้อีกสมัย พร้อมระบุนี่คือปีที่สุดแสนพิเศษ และสาวก "เดอะ ค็อป" ได้เห็นเหตุการณ์สำคัญมากมาย แม้จะต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ตาม

 เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยอมรับช็อกมากๆ ที่รู้ว่าตัวเองได้รับการโหวตให้คว้ารางวัลโค้ชชายยอดเยี่ยมประจำปี 2020 ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ "เดอะ เบสต์ เมนส์ ฟีฟ่า โค้ช ออฟ เดอะ เยียร์" จากการประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา

นายใหญ่ชาวเยอรมัน ปาดหน้าสองผู้ท้าชิงสำคัญอย่าง มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ซึ่งนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, และ ฮันส์-ดีเตอร์ ฟลิค เทรนเนอร์ฝีมือดีที่นำ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ผงาดคว้าทริปเบิลแชมป์ (บุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

หลังจากประกาศผลรางวัลดังกล่าว คล็อปป์ เปิดใจว่า "ผมช็อกไปเลย ผมนั่งอยู่ที่นี่ เพราะผมคิดว่าเมื่อปีที่แล้วผมได้รางวัลนี้ ผมอยู่ที่นี่ร่วมกับลูกทีมของผม ขอบคุณมากๆ ว้าว ผมยังมีอีกหลายคนที่ต้องขอบคุณ รวมทั้งบรรดาโค้ชทุกๆ คนของผม ถ้าผมรู้ว่าจะได้รางวัลนี้โค้ชของผมทุกคนจะต้องมาอยู่ที่นี่กับผม"

"เราไม่เคยได้ฝันมานาน 30 ปี แต่ตอนนี้เราสามารถฝันเห็นแชมป์ได้แล้ว มันเป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ และเราทุกคนมีปีที่สุดวิเศษมันก็ไม่ได้โชคร้ายซะทั้งหมด มันยังมีเรื่องดีๆ แต่สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล อย่างน้อยเราได้สร้างเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะรู้สึกยังไง เอาเป็นว่ามันความรู้สึกที่ปลื้มปิติสุดๆ" คล็อปป์ ซึ่งเป็นกุนซือคนแรกที่ได้รางวัล 2 สมัย ระบุ

ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/  | http://gpfgoyang.com/

"ดิโอโก้" เปิดตัวเรียบร้อย พร้อมช่วยบีจีไล่ล่าแชมป์ไทยลีก

หลังจากที่สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้เปิดตัว  ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ แนวรุกชาวบราซิลวัย 33 ปี ผ่านทางโซเชียล เมื่อเดินทามาถึงไทย และเข้ากักตัวตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ยอดดาวยิงไทยลีก 2 ครั้ง (ในปี 2015 และ 2018) ได้เข้ารับการกักตัวตามมาตรการของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เป็นระยะเวลา 14 วันเป็นที่เรียบร้อย และเขาได้เข้าตรวจโควิด-19 และผลเป็นลบ พร้อมกับได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมกระต่ายแก้วในทันที   

สำหรับ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ เคยผ่านการค้าแข้งมากับหลายสโมสรไม่ว่าจะเป็น โอลิมเปียกอส, ฟลาเมงโก, ซานโตส, ปอร์ตูเกซ่า และพัลไมรัส ก่อนจะย้ายมาแจ้งเกิดในเมืองไทยกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 2015 - 2018 และ ประสบความสำเร็จมากมายกับทัพ "ปราสาทสายฟ้า" ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 3 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย และคว้าดาวซัลโวไทยลีกได้ 2 ครั้งในปี 2015 และ 2018 จากนั้นย้ายไปร่วมทีม ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม สโมสรชั้นนำของประเทศมาเลเซีย ในปี 2019 ก่อนจะย้ายกลับมาค้าแข้งในเมืองไทยอีกครั้งกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/  | http://gpfgoyang.com/

"มาดามแป้ง" สุดปลื้ม การท่าเรือ คว้าตั๋วลุยรอบแบ่งกลุ่ม ACL ครั้งแรกในประวัติศาสตร์

 มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. รับสุดภาคภูมิใจ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ หลังสิงห์เจ้าท่าคว้าโควต้ารอบแบ่งกลุ่มครั้งแรก ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021

การท่าเรือ เอฟ.ซี. คว้าชัยเหนือ ราชบุรี มิตรผล เอฟ.ซี. 3-1 ศึกไทยลีก นัดที่ 14 พร้อมคว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 ครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ในปี 2510

นายหญิงสิงห์เจ้าท่า ให้สัมภาษณ์หลังเกมการแข่งขันว่า “วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์อีกครั้งตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ที่เราสามารถเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้ ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ง่ายเลย ล้มลุกคลุกคลานมาโดยตลอด และการได้ไปก็นับเป็นงานที่ยากมาก และเรายังไม่เคยไป ต้องทำงานหนักต่อ”

“แป้งเคยเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงมา เป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงเรื่องราวดีๆ ในเวทีต่างประเทศของตัวเอง ก็มีแต่ความภาคภูมิใจ แม้ว่าในช่วงแรกเราจะสะดุดจากอุบัติเหตุ แต่ฟ้าหลังฝนก็สวยงามเสมอ ทั้งไทยลีกที่ชนะติดต่อกัน 8 และการเข้ามาถึงรอบ 16 ทีมเอฟเอคัพในตอนนี้”

โดยกล่าวปิดท้ายว่า “ต้องขอขอบคุณผู้บริหาร ขอบคุณแฟนบอลท่าเรือที่มีศรัทธาร่วมกันมาโดยตลอด ขอบคุณนักเตะทุกคน ขอบคุณสระราวุฒิ ตรีพันธ์ุ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคน”

ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> https://bulahdelahevents.com/  | http://banknegar.com/

อัสสัมชัญ รัวแซง บุรีรัมย์ 3-2 ผงาดแชมป์ ซีพี-เมจิ ธันเดอร์ คัพ แชมเปี้ยนส์ 2020

 การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน รายการ “ซีพี-เมจิ ธันเดอร์ คัพ ยู-14 แชมเปี้ยนส์ 2020” รอบสุดท้าย ณ สนามช้าง เทรนนิ่ง กราวน์ และสนามช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์ โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยวันสุดท้าย

โดยมี คุณชาลินี พูนลาภมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซีพี เมจิ จำกัด, คุณศศิรดา สุทธิลักษณ์ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด, คุณโกวิทย์ ธรรมธนวิทย์ ผู้จัดการสายการบินแอร์เอเชีย ประจำสนามบินบุรีรัมย์ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด, คุณสุเมธ คำเที่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายภาคอีสาน บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, คุณธัชเมศฐ์ ธนนท์วุฒิฉัตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเเอธเลติก จำกัด

ดร.ศราวุธ  ดิษยวรรธนะ ผู้จัดการกิจกรรมพิเศษและกีฬา บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, คุณชลัฐ พิลาภ ผู้จัดการออนเทรด ภาคการขายที่ 3 ในนามผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คุณอัจฉรา อาทิภาณุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์โก้ สปอร์ต แอนด์ มิวสิคเคิล จำกัด ร่วมชมเกมนัดชิงชนะเลิศ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนักเตะ พร้อมมอบรางวัลต่างๆ หลังจบการแข่งขัน

โดยรอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ผลปรากฏว่า ปราสาทสายฟ้า ออกสตาร์ทเกมได้ดีกว่า กฤตภาส หนูแย้ม ยิงให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 6 จากนั้น 4 นาที กฤตภาส หนูแย้ม ก็มายิงให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีเป็น 2-0 ซึ่งก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาครึ่งหลังกลายเป็น เจ้าสัวน้อย ที่ตกเป็นรองในครึ่งแรกพลิกกลับมาได้คืน 3 ประตูรวดจาก มิราโก้ อินอร่าม นาทีที่ 42, อัษฎา หอมหวน นาทีที่ 52 และพงค์เพชร เอี่ยมสอาด นาทีที่ 62 ทำให้จบเกม อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปได้ 3-2 ส่งผลให้ เจ้าสัวน้อย คว้าแชมป์ไปครอง รับถ้วย พร้อมรับเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วน ปราสาทสายฟ้า รองแชมป์ รับเงินรางวัล 30,000 บาท

ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> https://bulahdelahevents.com/ | http://banknegar.com/